จริงๆคำถามในส่วนนี้ จะต้องถามตั้งแต่ช่วงแรกก่อนที่จะซื้อที่ดินค่ะ

นั่นคือในเรื่องของการวิเคราะห์ตลาด ถ้าวิเคราะห์มาค่อนข้างดีตั้งแต่ช่วงแรก มันจะมีในส่วนของความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และแผนสำรองวิธีการแก้ไขต่างๆ จะไม่ได้หนักที่งานขายอย่างเดียวค่ะ

แต่ด้วยความที่ครูทรายเติบโตจากพนักงานขาย เจอโครงการลักษณะ​หินมาพอสมควร​ จะขออนุญาตแนะนำในสิ่งที่สามารถทำได้ในปลายทาง ดังนี้นะคะ

สิ่งที่ฝ่ายขายพอจะทำได้คือ

1. ดูจำนวนยูนิตที่ยังเหลืออยู่และราคาบ้าน มีกี่แบบกี่ไทป์ คำนวณออกมาให้ได้ว่าลูกค้าที่จะซื้อต้องมีฐานเงินเดือนเท่าไหร่ในแต่ละหลัง โดยใช้ App นี้ https://play.google.com/store/apps/details…

2. วิเคราะห์คู่แข่ง เพื่อหาข้อได้เปรียบของตนเอง หรือสิ่งที่โครงการหรือแบบบ้านตนเองแตกต่าง ถ้าราคาไม่แตกต่าง ให้สู้ในเรื่องของแถมที่แตกต่าง หรือการบริการ หรือระบบงาน และการสร้างภาพลักษณ์

3. หากมีจำนวนยูนิตเยอะ อาจจะขอผู้บริหารเกลี่ย ลดกำไรขอโอนไวก่อน แล้วปรับเพิ่มกำไรของแปลงที่ยังเหลืออยู่

4. หากลุ่มอาชีพลูกค้าที่สามารถซื้อบ้านของเราได้จากข้อ 1. แล้วจะทำเป็นโปรโมชั่นและ Content ใน platform ต่างๆ ตามกลุ่มอาชีพที่เราลิสต์ไว้ โฟกัสกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ชัดเจน เช่น พ่อค้าแม่ค้า Grab food ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานที่มี MOU หรือพนักงานกลุ่มธุรกิจ ที่ไปได้ดีตัวอย่างเช่น เซลล์ คลินิกเสริมความงาม

5. ออกประชาสัมพันธ์จัดบูธ เพื่อเข้าถึงคนในท้องถิ่นให้มากขึ้น เช่น สื่อข่าวท้องถิ่น ร้านเวดดิ้ง

ลองทำตาม 5 ข้อนี้ก่อนนะคะ แล้วจะเริ่มเห็นแนวทางมากขึ้น จริงๆครูทรายอยากแนะนำให้รู้จักการหาลูกค้าแบบออฟไลน์ก่อน (แบบดั้งเดิม)​ แล้วควบกับออนไลน์​แบบไม่ยิงแอดก่อน เพราะไม่เช่นนั้นก็จะแข่งกันยิงแอด คนที่รวยคือพี่มาร์คค่ะ คนที่จนคือเรานี่แหละ 😅

…

ครูทราย ขอเป็นกำลังใจให้ชาวอสังหา ฯ ทุกท่านค่ะ 😄