เริ่มต้นเลยคือ

ไม่ใช่แค่การหักประกันผลงานค่ะ ปกติหักประกันผลงานจะต้องดูให้เหมาะสมกับพื้นที่และผู้รับเหมาที่มี ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ที่เราใช้งานอยู่ เพราะถ้ารายย่อยเขาก็คงไม่ไหวค่ะ จะต้องคุยวางแผนเพิ่มเติมในส่วนนั้น แต่ละพื้นที่ก็จะไม่เหมือนกัน

ถ้าเรามีผู้รับเหมารายใหญ่ที่พอที่จะมีเงินทุนสายป่านยาว เขาก็ไม่ซีเรียสเรื่องประกันผลงานค่ะ เขารอได้ แต่ถ้าเป็นรายย่อยแค่เฉพาะเบิกงวดอย่างน้อยๆก็เดือนละ 2 ครั้งค่ะ ถ้าซอยย่อยเบิกทุกสัปดาห์ก็จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับผู้รับเหมารายเล็กๆด้วยค่ะ

ในส่วนของ Developer เอง ควรที่จะมีบวกเพิ่มในราคาต้นทุนไว้แล้วอย่างน้อยๆ 5% ของราคาค่าก่อสร้าง เพื่อที่จะมี budget ไว้ประกันผลงานแจ้งซ่อมกับทางลูกค้า แยกให้เป็นสัดส่วนชัดเจนกับในส่วนของการประกันผลงานจากผู้รับเหมาค่ะ

เช่นนี้ การบริหารจัดการระยะยาวจะได้ลดความเสี่ยงตลอดเส้นทางค่ะ

ในส่วนของคำถาม

1. ช่างที่รับซ่อมเป็นทีมเดียวกับช่างที่รับสร้างใช่ไหม

คำตอบคือ

อาจจะเป็นทีมเดียวกันได้ถ้าอยู่ในช่วงระยะเวลาที่ยังมีประกันกับทางผู้รับเหมาค่ะ แต่ถ้าระยะเวลารับประกัน​หมดไปแล้ว อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

หรือจะเป็นคนของโครงการก็ได้ ที่ Service ลูกค้า โดยจะเป็น Budget จากในส่วนที่เรากันไว้ 5% ในต้นทุนค่ะ

2. ควรจะหักไว้เท่าไหร่ ที่จะเพียงพอหรือยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย

คำตอบคือ

อยู่ที่ตกลงกันค่ะ ประมาณ 3% ถึง 10% ระยะเวลาก็ 6 เดือนถึง 1 ปีค่ะ นับจากวันรับมอบบ้านงวดสุดท้ายค่ะ 😊

…

ครูทราย ขอเป็นกำลังใจให้ชาวอสังหา ฯ ทุกท่านค่ะ 😄